ว่ากันว่า … หากภายในเป็นอย่างไร
ภายนอกก็มักจะเป็นอย่างนั้นเช่นกัน
วันนี้ผมไม่ได้มาเล่าเรื่องคุณสมบัติของกระจก(เพราะผมไม่ได้ขายกระจก!)
แต่จะมาเล่าให้เห็นถึงภาพฉายภายนอกที่สะท้อนมาจากภายใน
ว่าสิ่งที่เราเห็นและเจออยู่ในปัจจุบันนั้นล้วนเกิดมาจากความคิดของเราอย่างไร
หรือพูดให้เข้าใจในอีกมุมหนึ่งคือ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ภายนอกที่ดี
ควรต้องมีทัศนคติอย่างไร กฎแห่งกระจกเงานี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับเรื่องต่างๆในชีวิตได้มากมาย
เช่น สุขภาพกาย สุขภาพจิต ความสัมพันธ์ สมรรถภาพองค์กร สมรรถภาพทีมงาน ฯลฯ แต่ในบทความนี้เราจะมาเริ่มกันจากทัศนคติส่วนตัวกันก่อนเป็นสำคัญครับ
หากคุณกำลังประสบกับปัญหาชีวิตในหลากหลายด้านมากมาย เชื่อไหมครับ? ว่านั่นคือสิ่งที่จิตใต้สำนึกของคุณกำลังสร้างให้มันเกิดขึ้นมาจริงๆอยู่ บางคนอาจจะสงสัยทันทีว่า “เฮ้ย! ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้นนะ
แต่มันก็เป็นไปแล้วนี่” ถูกต้องครับ! คุณไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น
แต่จิตสำนึกมันต้องการให้เป็นแบบนั้นนี่ครับ
สิ่งแรกที่คุณควรต้องรู้คือจิตใต้สำนึกทำงานอย่างไร? เพราะหากคุณไม่รู้แล้วล่ะก็ อาจจะใช้งานมันไปในทางตรงกันข้ามก็ได้
การทำงานของจิตใต้สำนึก … เป็นไปตามกลไกธรรมชาติ และทำงานอัติโนมัติ
ซึ่งคุณไม่สามารถควบคุมมันได้โดยตรง
หากคุณต้องการควบคุมจิตใต้สำนึกให้ได้อย่างอยู่หมัดแล้วล่ะก็คุณต้องเรียนรู้วิธีคีย์โปรแกรม
สิ่งที่จิตสำนึกจะรับไปประมวลผลต่อได้นั้นมีเพียงไม่กี่อย่างครับ นั่นคือ
สิ่งที่คุณมีความปราถนา และประกอบด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกร่วมด้วย และประเด็นสำคัญของมันก็คือนี่แหละครับ อารมณ์หรือความรู้สึกร่วม
เพราะหลายครั้งนั้นคนเรามีความต้องการที่ดี แต่กลับมีอารมณ์ที่แย่มาประกอบกับความคิดนั้น
ผลก็คือได้ผลลัพธ์ที่แย่ยังไงล่ะ!
คนส่วนมากที่มีปัญหาขัดแย้งในตัวเองก็เกิดจากการคีย์โปรแกรมผิดวิธีเสียส่วนใหญ่
เช่น ถ้าคุณต้องการมีสุขภาพทางการเงินที่ดีและมีความมั่นคงในชีวิต
คุณก็ควรจะมีทัศนคติในเชิงที่ว่าการมีชีวิตที่มั่นคงนั้นดีอย่างไร และสุขภาพทางการเงินที่ดีนั้นสามารถสร้างประโยชน์อะไรให้กับตนเองและผู้อื่นได้บ้าง
เมื่อคิดเชิงบวกแบบนี้คุณก็จะมีปราถนาที่ดีร่วมกับอารมณ์เชิงบวกทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงได้
แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ประสบปัญหาคือ
มีความต้องการแบบนี้ แต่ดันคิดอีกแบบหนึ่ง นั่นคือ
ไม่ต้องการมีชีวิตที่ยากลำบากและยากจน มีความรู้สึกต่อความลำบากยากจนในเชิงกลัวหรือเกลียด
ซึ่งทำให้ยิ่งย้ำความรู้สึกนั้นลงจิตใต้สำนึกมากขึ้นไปอีก
แน่นอนครับว่าผลลัพธ์ที่ตามมาคือคุณได้ชีวิตที่ลำบากและยากจนตามนั้นเลย!
หากภาพฉายภายนอกของคุณวันนี้ยังไม่ได้อย่างที่คุณต้องการ
นั่นหมายถึงคุณกำลังมีปัญหากับทัศนคติบางอย่างต่อตัวเองอยู่อย่างแน่นอน
ดังนั้นต้องเริ่มแก้ไขอย่างถูกวิธีอย่างที่ได้บอกไว้ในบทความนะครับ เพราะจิตใต้สำนึกของคนเรานั้นทรงพลังมาก
ดังนั้นการที่เราจะสามารถควบคุมมันได้ต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นหลักครับ
และเมื่อคุณสามารถเข้าควบคุมจิตใต้สำนึกได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
ก็จะสามารถบงการชีวิตตนเองให้เป็นอย่างที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดของ “กฎแห่งกระจกเงา”
เริ่มต้นที่ทัศนคติที่ดีต่อตนเองเป็นหลักนะครับ เมื่อคุณเริ่มต้นจากตนเองดีแล้ว
ภาพภายในจะค่อยๆถูกสะท้อนผ่านจิตสำนึกไปฉายให้คุณเห็นอยู่ภายนอกอย่างสมบูรณ์แบบเองในที่สุด
จะลองนำไปใช้นะคะ จะลองปรับทัศนคติที่มีต่อตนเองดู :)
ตอบลบ