วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

          ว่ากันว่า หากภายในเป็นอย่างไร ภายนอกก็มักจะเป็นอย่างนั้นเช่นกัน   วันนี้ผมไม่ได้มาเล่าเรื่องคุณสมบัติของกระจก(เพราะผมไม่ได้ขายกระจก!) แต่จะมาเล่าให้เห็นถึงภาพฉายภายนอกที่สะท้อนมาจากภายใน ว่าสิ่งที่เราเห็นและเจออยู่ในปัจจุบันนั้นล้วนเกิดมาจากความคิดของเราอย่างไร หรือพูดให้เข้าใจในอีกมุมหนึ่งคือ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ภายนอกที่ดี ควรต้องมีทัศนคติอย่างไร   กฎแห่งกระจกเงานี้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับเรื่องต่างๆในชีวิตได้มากมาย เช่น สุขภาพกาย สุขภาพจิต ความสัมพันธ์ สมรรถภาพองค์กร สมรรถภาพทีมงาน ฯลฯ   แต่ในบทความนี้เราจะมาเริ่มกันจากทัศนคติส่วนตัวกันก่อนเป็นสำคัญครับ




          หากคุณกำลังประสบกับปัญหาชีวิตในหลากหลายด้านมากมาย เชื่อไหมครับ? ว่านั่นคือสิ่งที่จิตใต้สำนึกของคุณกำลังสร้างให้มันเกิดขึ้นมาจริงๆอยู่   บางคนอาจจะสงสัยทันทีว่า “เฮ้ย! ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้นนะ แต่มันก็เป็นไปแล้วนี่”   ถูกต้องครับ! คุณไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนั้น แต่จิตสำนึกมันต้องการให้เป็นแบบนั้นนี่ครับ   สิ่งแรกที่คุณควรต้องรู้คือจิตใต้สำนึกทำงานอย่างไร? เพราะหากคุณไม่รู้แล้วล่ะก็ อาจจะใช้งานมันไปในทางตรงกันข้ามก็ได้

          การทำงานของจิตใต้สำนึก เป็นไปตามกลไกธรรมชาติ และทำงานอัติโนมัติ ซึ่งคุณไม่สามารถควบคุมมันได้โดยตรง หากคุณต้องการควบคุมจิตใต้สำนึกให้ได้อย่างอยู่หมัดแล้วล่ะก็คุณต้องเรียนรู้วิธีคีย์โปรแกรม   สิ่งที่จิตสำนึกจะรับไปประมวลผลต่อได้นั้นมีเพียงไม่กี่อย่างครับ นั่นคือ สิ่งที่คุณมีความปราถนา และประกอบด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกร่วมด้วย   และประเด็นสำคัญของมันก็คือนี่แหละครับ อารมณ์หรือความรู้สึกร่วม เพราะหลายครั้งนั้นคนเรามีความต้องการที่ดี แต่กลับมีอารมณ์ที่แย่มาประกอบกับความคิดนั้น ผลก็คือได้ผลลัพธ์ที่แย่ยังไงล่ะ!

          คนส่วนมากที่มีปัญหาขัดแย้งในตัวเองก็เกิดจากการคีย์โปรแกรมผิดวิธีเสียส่วนใหญ่ เช่น ถ้าคุณต้องการมีสุขภาพทางการเงินที่ดีและมีความมั่นคงในชีวิต คุณก็ควรจะมีทัศนคติในเชิงที่ว่าการมีชีวิตที่มั่นคงนั้นดีอย่างไร และสุขภาพทางการเงินที่ดีนั้นสามารถสร้างประโยชน์อะไรให้กับตนเองและผู้อื่นได้บ้าง เมื่อคิดเชิงบวกแบบนี้คุณก็จะมีปราถนาที่ดีร่วมกับอารมณ์เชิงบวกทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นจริงได้   แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ประสบปัญหาคือ มีความต้องการแบบนี้ แต่ดันคิดอีกแบบหนึ่ง นั่นคือ ไม่ต้องการมีชีวิตที่ยากลำบากและยากจน มีความรู้สึกต่อความลำบากยากจนในเชิงกลัวหรือเกลียด ซึ่งทำให้ยิ่งย้ำความรู้สึกนั้นลงจิตใต้สำนึกมากขึ้นไปอีก แน่นอนครับว่าผลลัพธ์ที่ตามมาคือคุณได้ชีวิตที่ลำบากและยากจนตามนั้นเลย!




          หากภาพฉายภายนอกของคุณวันนี้ยังไม่ได้อย่างที่คุณต้องการ นั่นหมายถึงคุณกำลังมีปัญหากับทัศนคติบางอย่างต่อตัวเองอยู่อย่างแน่นอน ดังนั้นต้องเริ่มแก้ไขอย่างถูกวิธีอย่างที่ได้บอกไว้ในบทความนะครับ   เพราะจิตใต้สำนึกของคนเรานั้นทรงพลังมาก ดังนั้นการที่เราจะสามารถควบคุมมันได้ต้องอาศัยการฝึกฝนเป็นหลักครับ และเมื่อคุณสามารถเข้าควบคุมจิตใต้สำนึกได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะสามารถบงการชีวิตตนเองให้เป็นอย่างที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย   จุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดของ “กฎแห่งกระจกเงา” เริ่มต้นที่ทัศนคติที่ดีต่อตนเองเป็นหลักนะครับ เมื่อคุณเริ่มต้นจากตนเองดีแล้ว ภาพภายในจะค่อยๆถูกสะท้อนผ่านจิตสำนึกไปฉายให้คุณเห็นอยู่ภายนอกอย่างสมบูรณ์แบบเองในที่สุด

1 ความคิดเห็น:

  1. จะลองนำไปใช้นะคะ จะลองปรับทัศนคติที่มีต่อตนเองดู :)

    ตอบลบ